Saturday, 25 March 2023

รีวิวหนัง "I Wanna Dance with Somebody" เรนจ์เสียงทรงพลัง แต่ยังไม่ถึงระดับมหัศจรรย์

ถึงคิวของอีกหนึ่ง ดีว่าในตำนานที่ใคร ๆ ก็ยกให้เธอผู้เป็น “แม่” สุดยอดนักร้องเสียงทรงพลังแห่งยุค กับชีวิตที่พุ่งขึ้นสูงสุด แล้วก็ดิ่งลงต่ำสุด ในช่วงเวลาแห่งความเลื่องชื่อ นี่เป็น “I Wanna Dance with Somebody ชีวิตมหัศจรรย์…วิทนีย์ ฮุสตัน”

ตีแผ่ชีวประวัติของนักร้องหญิง “วิทนีย์ ฮุสตัน” เจ้าของเพลงดังอมตะ ติดหูมากมาย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งชีวิต ของตำนานคนเพลง ที่ถูกนำมาขึ้นจอ ท่ามกลางยุค ที่หนังแนว ๆ ทยอยสร้างมาเรื่อยว่าแต่เรื่องนี้ จะยังสร้างเสน่ห์และมนต์ขลัง ได้ไหม?

วิทนีย์ ฮุสตัน นักร้อง

เพียงผู้เดียวบนโลกใบนี้ ที่ได้รับฉายาว่า The Voice เธอคนนั้นเป็น วิทนีย์ ฮุสตัน

ผู้ที่หลายคนสามารถเรียก ได้อย่างเต็มปากว่าเธอเป็น ราชินีสุดยิ่งใหญ่แห่งวงการเพลง จากการผลิตสถิติในการกวาดรางวัล บนเวทีประกาศรางวัลของวงการนี้จำนวนมาก และนี่คือเส้นทางแห่งห้วงชีวิต อันแสนมีเวลาจำกัด ของเธอผู้นี้ ทั้งสุข ทั้งทุกข์ ทั้งหลากหลายอารมณ์ กับทางในแวดวงเพลง จากนักร้องเพลงประสานเสียง ในโบสถ์เล็ก ๆ มาเป็นซูเปอร์สตาร์ดาว จรัสระดับโลก ที่มีเสียงอันทรงพลัง ที่โลกจำไม่ลืม

คงจะต้องร้อยเรียงกัน แบบไม่อ้อมค้อมว่า I Wanna Dance with Somebody เป็นหนังชีวประวัตินักร้องมีชื่อเรื่องหนึ่ง ที่น่าเสียดายไปสักนิด ตรงที่หนังเกือบจะไม่มีอะไร ให้น่าจำสักเท่าไหร่เลย ในหลายแง่และหลายองค์ประกอบที่ใส่เข้ามา “คาซี เลมมอนส์” ผู้กำกับหญิง ที่เคยสร้างหนังเข้าชิงออสการ์มาแล้ว จาก Harriet มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง ที่เหมือนงานจะค่อนข้างใหญ่ แล้วก็กดดันเกินไปสักนิด ทำให้การลำเลียงชีวิต ของดีวาหญิงผู้นี้ ออกมาเป็นหนังแล้วนั้น ยังมีรสสัมผัส ที่ไม่จัดจ้านเท่าไหร่

วิทนีย์ ฮุสตัน ทรงพลัง

ถึงแม้ว่าจะได้มือเขียนบทตัวท็อป อย่าง “แอนโทนี แม็คคาร์เทน” มาปลุกปั้นเรื่องราว ของหนังเรื่องนี้ ให้แล้วก็ตาม แต่ว่าไม่สามารถนำเอาไป เปรียบเทียบกับงานเขียนชิ้นก่อนของเขา อย่าง Bohemian Rhapsody ได้เลยสักนิด ระหว่างที่นั่งดู ก็ได้คิดสงสัยว่าเพราะอะไร

เสน่ห์ที่มันน่ากลมกล่อม แบบที่เคยทำให้นั้น มันหลบไปอยู่ที่ไหน ทั้งที่เส้นทางชีวิตของวิทนีย์ ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย มีประเด็นต่าง ๆ ให้ได้ตีแผ่รวมทั้งวาดภาพออกมา ได้อย่างทรงพลังไม่ยาก

จนกระทั่งมานั่งวิเคราะห์ลึก ๆ ก็พบว่า I Wanna Dance with Somebody ออกจะที่จะเลือกนำเสนอชีวิต ของวิทนีย์ในลักษณะ แค่ระดับผิวเผินพอควรอยู่ในหลาย ๆ จุด นั่นก็เลยเป็นจุด ทำให้บทหนัง ยังไม่สามารถที่จะประคับประคองเอาไว้ได้

เหมือนกำลังหนังดูหนังชีวประวัติ ที่สร้างง่ายๆ เป็นหนังฉายบนทีวีเรื่องหนึ่ง ที่หลายส่วนประกอบยังไม่มิติ รวมทั้งยังไม่มีจุดสัมผัส ที่สื่อสารได้ถึงผู้ชม ได้อย่างเต็ม ๆ แม้ว่าจะขนโชว์เพลงที่ได้รับความนิยม มาใส่เอาไว้มากมาย แต่กลับยังไม่ค่อยลื่นไหล แล้วก็ถูกใจมากเท่าไรนัก

วิทนีย์เพลง

I Wanna Dance with Somebody คล้ายกับเป็นหนังที่ย่อ ชีวิตวิทนีย์แบบง่าย ๆ

เก็บตกโมเมนท์หลักๆ ในไลฟ์ไทม์ของเธอ ถือเอาไลฟ์โชว์เด่น ๆ ที่เคยตรึงตาตรึงใจเอามาผลิตซ้ำทับลงไปในนั้น ไล่เรียงเล่าเป็นช็อตต่อช็อต โดยที่ไม่ค่อยมีกิมมิก และก็ลูกเล่นอะไรสักเท่าไหร่ งานสร้างก็จัดได้ว่า ดีตามมาตรฐาน ในส่วนนี้ค่อนข้างเพลย์เซฟ ไปสักหน่อย โดยเฉพาะเรื่องโชว์ และเพลงประกอบ ที่หนังเลือกที่จะเอาเสียงเพลง ต้นฉบับมาแปะ ทับเอาไว้ตลอดทั้งเรื่อง

ซึ่งก็ไม่ได้พูดว่าการใช้ลูกเล่นนี้ไม่ดี เพียงแต่ว่า พองานสร้างทำได้ ไม่ถึงจุดนั้น ภาพรวมที่ออกมากลายเป็นเช่นเดียวกับซ้ำเติม การแสดงที่สวมบทบาท แบบปลอมๆ มากขึ้น นักแสดงนำเป็นขยับปากร้อง ลิปซิงตามเสียงต้นฉบับ แม้อินเนอร์จะได้ แต่ฟีลลิ่งต่าง ๆ ยังมิได้ และไม่ค่อยเชื่อมต่อ กับผู้ชมได้ดีสักเท่าไหร่ นั่นจึงเป็นจุด ที่ไฮไลต์เด่นของหนังเรื่องนี้ น่าจะทำงานตรงนี้ได้ดีที่สุด แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จได้ซักเท่าไหร่

รวมทั้งมันก็ส่งต่อภาพรวม ขององค์ประกอบการแสดงอีกด้วย จะต้องชื่นชมเลยว่า “เนโอมิ แอ็คกี” แบกรับบทหนักทั้งเรื่องนี้ เอาไว้ได้ดีมาก ๆ เธอคือตัวชูโรงเพียงลำพังที่ยืนหนึ่ง

แต่เพราะว่าส่วนผสมที่ยังขาด ๆ เกิน ๆ ของหนังนั้น กลับไม่ช่วยส่งเสริม พลังการแสดงของเธอ ได้สักเท่าไหร่นัก ในตอนครึ่งแรกเป็นช่วง ที่ถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างน่าหลงใหล แต่ว่าในช่วงครึ่งหลัง ที่เป็นห้วงของดราม่าจัด ๆ กลับไม่สามารถแตะไปถึงจุด ที่สร้างความทรงพลังได้

เหมือนกับ นักแสดงสมทบคนอื่นทั้ง “สแตนลี ทุชชี”, “ทามารา ทูนี”, “คลาร์ก ปีเตอร์ส” หรือ “แอชตัน แซนเดอร์ส” เหมือนมาเป็นตัวละคร สมทบให้ครบ ๆ แค่นั้น หนังลืมที่จะให้ความสำคัญ และก็ใส่ใจในรายละเอียด ของพวกเขาไม่สักหน่อย

จับเอามาใส่เนื่องจากว่าควรมีเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างบทของสแตนลี ที่เอาจริง ๆ ถ้าเกิดได้รับการใส่ใจมากกว่านี้ บทบาทของเขาน่าจะทรงพลังได้มากกว่านี้ ดีไม่ดีความเป็นมือโปรของเขา ก็ดันให้ไปถึงระดับรางวัลด้วยซ้ำ

โดยสรุปแล้วนั้น I Wanna Dance with Somebody อาจจะยังไม่ได้ เป็นหนังที่สมบูรณ์แบบ และก็ยอดเยี่ยม แต่มันก็มิได้ เป็นหนังที่แย่ ก็แค่หลาย ๆ องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้นั้น ยังค่อนข้างจะไร้ซึ่งเสน่ห์ ที่ต้องมีไปสักหน่อย

การเล่าเรื่องที่ยังจืดชืดไปนิด แม้ว่าจะมีเวลาแอร์ไทม์ถึง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ คงจะพอเพียงแล้ว แต่ยังทำออกมา ได้แบบยังไม่มหัศจรรย์ สักเท่าไหร่ การแตะต้อง เรื่องราวชีวิตของดีวาแบบผิวเผิน เป็นจุดที่ขาด การเชื่อมต่อกับผู้ชมไป แม้นักแสดงจะทำดี เยอะแค่ไหน แต่ว่าเรื่องไม่ไปทางเดียวกันด้วย ก็ยังไม่น่าอัศจรรย์อยู่ดี