Don’t Worry Darling เดิมทีนั้น มันเป็นหนังที่โปรแกรม จะเข้าฉายในโรงบ้านเรา ก็นั่นแหละ แต่ไม่รู้ว่าไป ๆ มา ๆ จึงถูกถอดวันฉายออกไป ดื้อ ๆ ภายหลังที่กระแสของหนัง และรายได้ของหนัง ไม่ค่อยจะปัง สักเท่าไหร่นัก แต่จนแล้วจนรอดเราก็ได้ดู “Don’t WorryDarling” หนังระทึกขวัญ ที่ผลงานจัดจ้าน ที่ร่วมดารานักแสดง ชั้นแนวหน้าเอาไว้ ได้อย่างน่าดึงดูด
Don’t Worry Darling คือเรื่องราวของ อลิซ และ แจ็ค
โชคดีมากพอ ที่จะได้อาศัยอยู่ในชุมชน ในฝันของใครอีกหลาย ๆ คน ที่ชื่อว่า วิคตอรี่ หมู่บ้านขององค์กรหนึ่ง ที่ให้พนักงานชาย ผู้ร่วมโปรเจกต์ลับวิคตอรี่ อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา มุมมองของโลกอันสวยงามในปี 1950 เริ่ม โดย แฟรงค์ ผู้บริหาร ไลฟ์โค้ช ผู้สร้างแรงบันดาลใจ และวิสัยทัศน์ ที่เสมอภาค โดยเขานั้น ยึดทุกมุมมองของชีวิต ในดินแดนแห่ง ความฝันนั้นเป็นหลัก
ในขณะทีสามี ใช้เวลาทุกวันของเขา ในฐานทัพหลัก ของโปรเจกต์วิคตอรี่ เพื่อทำงานเกี่ยวกับ การพัฒนาวัสดุเพื่อความก้าวหน้า เหล่าภรรยาของพวกเขา รวมถึง เชลลีย์ คนรักคนงามของ แฟรงค์ ต่างก็ใช้เวลาเพลิดเพลิน ไปกับความสวยความงาม ความเลิศหรู
และแสงสีเสียง ชวนเมาในชุมชนของพวกเขา ชีวิตนั้นช่างเพอร์เฟ็ค ถึงแม้ว่าทุกครอบครัว จะต้องไปพบองค์กรใหญ่ อย่างสม่ำเสมอ และแลกกับการ ที่พวกเขาห้ามขัดขืน ห้ามตั้งปัญหาใด ๆ ก็ตามเกี่ยวกับวิคตอรี่ เด็ดขาด
นี่คือว่า ผลงานที่นักแสดงสาวชื่อดัง “โอลิเวีย ไวลด์” ได้รับโอกาสจากสตูดิโอใหญ่ ให้กับมากำกับหนัง เป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าเธอจะสั่งสมประสบการณ์ จากผลงานเรื่องก่อน ๆ ทั้งยังหนังสั้น, มิวสิควิดีโอ และหนังเปิดตัว เรื่องดัง Booksmart เมื่อไม่กี่ปีก่อน
การกลับมาคราวนี้ นับได้ว่าเป็นงานท้าทาย สำหรับเธอ เพราะเหตุว่าต้องมาหยิบจับ งานสเกลที่ใหญ่ขึ้น จากเดิมหลายเท่าตัว
รวมทั้งนั่นแหละ ที่น่าจะเป็นหนึ่ง ในปัญหาของ Don’tWorry Darling ด้วยความที่หนังมีสเกล และรายละเอียดที่ค่อนข้างจะใหญ่ เกินตัวโอลิเวีย ที่บอกตรง ๆ เธอยังคงค่อนข้างจะใหม่
กับวงการเบื้องหลัง ในฐานะผู้กำกับอยู่ เธอเคยแค่กำกับกองถ่ายเล็ก ๆ กับหนังนอกกระแส มาเท่าไร เมื่อต้องมาจับ งานสร้างหนังเมนสตรีมเช่นนี้ พลังและแนวทางของเธอนั้น บางทีอาจยังไม่อาจควบคุมหนังเรื่องนี้ ได้เพียงพอ
ในส่วนของบทหนัง ที่ได้นักเขียนคู่บุญ “แคธี ซิลเบอร์แมน” กลับมาทำงานด้วยกันอีกรอบ แต่ก็กลายเป็น โอลิเวีย ไวลด์ นักเขียนสาวผู้นี้ ยังค่อนข้างจะมีประสบการณ์ ไม่มากสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเธอจะไปได้ดีกับ Booksmart กับก่อนหน้าที่ มีหนังรอมคอม Isn’t It Romantic ที่ก็มิได้เป็นหนัง ที่ปังอะไร เมื่อต้องมารับงานเขียน หนังเชิงพาณิชย์แบบเน้น ๆ ก็คงจะใหญ่เกินตัวไป สำหรับเธอเช่นกัน
นั่นจึงส่งออกมา ทำให้บทหนังของ Don’t Worry Darling ค่อนข้างจะเรียบเฉย แม้จะพยายามสร้างมิติ เชิงซ้อนออกมา ให้ดูหวือหวา แต่ยังไม่สามารถที่จะซื้อใจ คนดูไปได้สักเท่าไหร่ แล้วยิ่งมาผนวก กับแนวทางการกำกับ
และงานสร้างด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่า หนังหลงทิศหลงทาง ไปในบางจุด เป็นหนังที่มีจุดไคล์แมกซ์ แต่เสมือนไม่มี หลายแนวทางดูยังไม่ใช่ ที่ใช่ทางในตัวของหนัง โดยเฉพาะอย่างการเล่าเรื่อง ที่ชวนหัวเสียไป ในบางคราว
แต่อย่างเดียว และสิ่งที่เยี่ยมที่สุดที่ในหนัง Don’t Worry Darling เรื่องนี้มีอยู่มันก็คือ “ฟลอเรนซ์ พิวจ์” เพราะเหตุว่าเธอคือหญิงเพียง หนึ่งเดียวที่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องนี้ เอาไว้บนบ่าตนเอง เพียงคนเดียว นี่คือผลงาน การแสดงระดับ มาสเตอร์พีชของเธอ ที่กลายเป็นงานแสดงที่ดี ใช้ได้แต่มาอยู่ในหนัง ที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำเท่าไรนัก การมีอยู่ของฟลอเรนซ์ คือไฮไลต์ ที่เด็ดที่สุดของเรื่องนี้
การแสดงแบบน้อยแต่มาก ที่ผลลัพธ์ออกมา ได้อย่างพึงพอใจของเธอ
พยายามที่ช่วยแก้ไข ข้อด้อยต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ในหลายซีน แต่ถึงแม้ว่าการแสดงของเธอ จะดีสักแค่ไหน ก็ยังถูกกลบไปด้วยองค์ประกอบ ที่ค่อนข้างจะไม่น่าอภิรมย์ สักเท่าไหร่ในหนังเรื่องนี้ ไปอย่างโชคร้าย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ดี เพียงแค่อย่างเดียว ที่พบเห็นได้ ในหนังเรื่องนี้
ในขณะที่นักแสดงคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น “แฮร์รี่ สไตล์ส” ที่ก็ยังเข้าไม่ถึงบทบาทนี้ สักเท่าไหร่ ด้วยชั่วโมงบินทางการแสดงของเขา ยังค่อนข้างจะน้อยอยู่ เป็นไอดอลหนุ่ม ที่มีฝีมือทางการแสดงอย่างเห็นได้ชัด
แต่ยังต้องขัดเกลา และใช้เวลามากกว่านี้ รวมถึง “คริส ไพน์”, “เกมมา ชาน”, “กิกี้ เลย์น” รวมไปถึง โอลิเวีย ไวลด์ พวกเขาต่างให้ การแสดงที่ดีตามมาตรฐาน เพียงมันยังไม่พอ ที่สามารถจะช่วยกันพยุงหนัง เอาไว้ได้แบบทีม
แต่ประเดี๋ยวจะหาว่า ใจจืดใจดำเกินไป จริง ๆ อีกสิ่งที่ต้องการจะชม หนังใน Don’t Worry Darling เรื่องนี้อยู่แบบเดียวกัน ก็คือองค์ประกอบโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ สารภาพเลยว่าเรื่องนี้ ทำได้ค่อนข้างจะดีเลย
นับได้ว่าเป็นงานสร้าง ที่ค่อนข้างจะลงดีเทล และน่าตื่นตาตื่นใจได้ดีกว่านี้ ถ้าว่าได้มีประสบการณ์ได้ ไปดูเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ เพราะเหตุว่าถือว่าองค์ประกอบตรงจุดนี้ ของเขาก็มิได้ น่าเกลียด มีท่วงทำนองและรสนิยม ที่จัดจ้านพอตัวเลย
โดยภาพรวม แล้วนั้น Don’t WorryDarling บางทีก็อาจจะไม่เชิงว่าเป็นหนัง ที่น่าผิดหวัง แค่เพียงคนดูอาจ คาดหวังเยอะเกินไปเพราะเหตุว่าได้เห็น ทีมนักแสดงชุดใหญ่ ไฟกะพริบขนาดนี้
แต่โดยรวม ของหนังออกมา ได้แบบยังไปไม่สุดสักทาง บทหนังไม่ลึกซึ้ง การเล่าเรื่อง ยังมีปัญหา แต่นับว่าดี ที่ยังมีนักแสดงที่พยายาม ช่วยยื้อศักยภาพ ของหนังเอาไว้อย่างเต็มกำลัง สุดท้ายจึงออกมา เป็นหนังที่ค่อนข้างจะโคลงเคลง ไปสักหน่อย ดูได้พอผ่าน ๆ แต่ยังไม่มีอะไร ให้ตราตรึงใจมากเท่าไรนักเท่านั้นเอง