แม้เส้นทางชีวิตของ “แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” จะมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบมาตั้งแต่เกิด ชีวิตวัยเด็กก็เรียกได้ว่าต้องสู้ ทั้งยังทำงานบ้านพร้อมด้วยทำทุกอย่างที่ได้เงินมา กระทั่งเข้ามาเรียนต่อระดับปริญญาตรี ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร เจ้าตัว ยังหาเงินเพื่อส่งตัวเอง เรียนด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเธอเอง กระทั่งเมื่อเธอตกลง ตามล่าฝันในเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 โดยนอกจากที่ แนทอนิพรณ์จะคว้าตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 แล้ว
ในเวทีเดียวกันนี้ แนท ยังสามารถคว้าตำแหน่งพิเศษ Miss Smile ที่คัดเลือกจากสาวงาม ผู้เป็นตัวแทนรอยยิ้มจริงใจ สดใส สมาร์ท ทันสมัย ก่อนจะเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2015 ที่สหรัฐอเมริกา แล้วก็ฉายแววโดดเด่นกระทั่งเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายของการประกวด รวมถึงได้รางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม มาครอง
แนท อนิพรณ์ เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญ คนพิเศษในรายการ “Club Friday Show”
ผลิตโดย CHANGE2561 “แนท อนิพรณ์” ได้เปิดเรื่องราว ในชีวิตพร้อมทั้งเผยความรัก แบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุย มานั่งเล่าตรงนี้ เป็นที่แรกแบบหมดเปลือก ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตของแนท ต้องรันทดใช้เงินวันละ 5 บาท ตอนเข้ามากรุงเทพฯใหม่ ๆ พร้อมเปิดความมั่นใจระดับล้านของตนเอง แบบไม่เผื่อใจ ที่จะไม่ได้มง แต่ว่าหากไม่มงจะกลับมาใหม่ ส่วนในเรื่องของหัวใจ แนท ก็เปิดแบบไม่มีกั๊กเรื่องย้อนถึง สามวันจากนารีเป็นอื่นของจริง เปลี่ยนความรู้สึกชอบผู้ชาย ได้ในสามวัน ฟินทะลุจอยิ่งกว่าซีรีส์! และก็เจอวิกฤตใหญ่ จนบ้านจะโดนยึด และผู้หวังดีก็เตรียมทับถม
กว่าจะมาถึงวันนี้ ชีวิตของ แนท เองก็สู้มาตลอด?
แนท : คือหนูก็ไม่รู้ว่าเราสู้ชีวิตหรือเปล่า เนื่องจากว่ามันเป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่เด็ก ดังเช่นว่า ปลูกผักกินเอง ออกกำลังกายเพื่อที่เราจะได้ ไม่ต้องป่วยเข้าโรงพยาบาลแล้วเสียตังค์ และก็เราใช้เงินวันละ 5 บาท ตอนที่เข้ามากรุงเทพฯ ใหม่ ๆ คือ แนท มีกระปุกออมสินที่แนท เก็บไว้ที่บ้านตั้งแต่เด็ก ๆ เราก็คำนวณแล้วว่า ในกระปุกออมสินมันจะต้องใช้ประมาณวันละ 5 บาทไม่เกิน 7 บาท มันถึงจะอยู่ได้ ถึงหนี่งเดือน แล้วเพื่อน แนท เขาก็เอาข้าวมาแล้วก็กินน้ำกินอะไรเอา ตอนนั้นเราก็คิดทำไมชีวิตมันรันทดจังเลย?
ภาพที่ทุกคนจำได้แล้วเป็นแบบตำนานเลย คือ ชุดประจำชาติ รถตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์?
แนท : ใช่ค่ะ เป็นชุดประจำชาติค่ะ (ยิ้ม)
แล้วตอนที่เข้าประกวดเชื่อมั่นไหมว่าจะได้?
แนท : (อย่าเกลียดหนูอีกเลย) มั่นใจมาก
แล้วในความมั่นใจมหาศาลมีเผื่อใจไหม?
แนท : เอาตรง ๆ เลยนะคะ ไม่มีได้เผื่อไว้เลยค่ะ หากหนูมิได้ที่หนึ่ง เราก็จะสละสิทธิ์แล้ว เราจะกลับมาใหม่เพื่อเอาที่หนึ่ง
ถามถึงเรื่องหัวใจกันบ้าง สามารถจีบผู้ชายเองก่อนได้ด้วย?
แนท : ใช่ค่ะ ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน มาหลายปีเราก็จีบเขา เราก็เลยโทรศัพท์หาเขาเราเป็นแฟนกันได้ไหม เขาก็บอกว่าเป็นเพื่อนมันก็ดีอยู่แล้วเปล่า แล้วอีกประมาณสามวัน เขาก็โทรศัพท์มา เขาก็พูดว่าลองคุยกันใหม่ไหม เราก็บอกเขาว่าตอนนี้เราคิดกับเขาเป็นเพื่อนแล้ว และเราก็คุยกับคนใหม่ไปแล้ว (ยิ้ม)
แต่ว่า แนท ก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องของความรักที่ไหนเลย?
แนท : ทุกคนจะคิดว่า แนท ไม่มีแฟนเพราะว่าแฟน แนท เป็นเด็ก เราห่างจากเขาประมาณ 3-4 ปีเลย ในเวลานั้นเขาพึ่งอายุ 16 ปี แนท ก็ถามเขาตรง ๆ นี่เราตามจีบพี่ทำไมเนี่ย เขาบอกเราว่าคือผมคิดว่า ในชีวิตผมอาจเจอผู้หญิงอีกหลายคน บางทีอาจดีกว่าพี่ สวยกว่าพี่ หรืออะไรก็ตาม แต่คนที่ใช่ ถ้าเกิดผมคิดว่าถ้าหากผมปล่อยพี่ไปครั้งนี้ ผมไม่มีทางได้พี่กลับคืนมาแน่ๆ ณ วันนี้ ที่ผมเจอพี่แล้ว ผมขอทำเต็มที่ ผมขอจีบพี่ผมไม่ได้อยากปล่อยพี่ไป
แล้วก็เจอวิกฤตการณ์ใหญ่ๆ?
แนท : มันก็เหมือนมีหมายศาลมาค่ะ ว่าจะมายึดบ้าน คือเราก็ช็อคก็ร้องไห้ก่อนลำดับแรก ด้วยความที่ตากับยายก็รู้ข่าวแล้ว เราก็บอกตายายว่าไม่ต้องห่วงนะ อยู่ในวงการมันก็ต้องมีข่าวเป็นปกติ ปรากฏว่าเขาเก็บเสื้อผ้า รอแบบนั่งกอดรอเลย และมีผู้หวังดีชาวบ้าน 4 ชาวบ้าน 5 เอ้า บ้านจะโดนยึดเหรอ ว่าแล้วต้องโดนยึด
ติดตามเรื่องราวการ สู้ชีวิตแบบหมดเปลือก พร้อมเรื่องราวความรักของ “แนท อนิพรณ์” ได้ในรายการ “Club Friday Show” วันเสาร์ที่ 21 มกราคม นี้ เวลา 12.00 น. ทางช่องวัน31